Header Ads

“ลุงตู่” เปิดห้องทำงานนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า ต้อนรับเด็กๆ พานั่งเก้าอี้ นายกฯ ...

“ลุงตู่” เปิดห้องทำงานนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า ต้อนรับเด็กๆ พานั่งเก้าอี้ นายกฯ ปลุก เด็กไทย ต้องมีความเป็นไทย และใจรักชาติ 
ยกเนื้อเพลง “ความรักอันใดแม้รักเท่าไหน ก็ไม่ยั่งยืนเท่าความรักชาติ รักแผ่นดินของเรา” 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 


โดยกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบปะกับทุกคนที่เปี่ยมด้วยพลังและความสามารถหลากหลาย และดีใจที่ได้เห็นเด็ก ๆ อนาคตของชาติ นำความรู้ ความสามารถที่มีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และเป็นต้นแบบที่ดีของเยาวชน 

ในโอกาสการจัดงาน “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2566 ณ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้งดการจัดกิจกรรมภายในมา2 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในวันนี้มีกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยมหิดลและโรงเรียนประโคนชัย ที่เป็นตัวแทนเยาวชนถ่ายทอดความรักชาติและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านบทเพลงและการแสดงได้อย่างน่าประทับใจ 

ส่วนคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2566 ที่ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ซึ่งการรู้หน้าที่ คือ หน้าที่ที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังบทเพลงรักชาติที่ว่า “ความรักอันใดแม้รักเท่าไหน ก็ไม่ยั่งยืนเท่าความรักชาติ รักแผ่นดินของเรา” เด็กและเยาวชนต้องมีหน้าที่ต่อตนเอง คือ มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณ หน้าที่ในการเป็นศิษย์ที่ดีของครู หมั่นแสวงหาความรู้ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นพลเมืองไทยที่มีคุณภาพในการทำหน้าที่ต่อสังคม ชุมชน และประเทศชาติ 

นอกจากนี้ เยาวชนต้องมีวินัยต่อตนเองและต่อสังคม เพราะการมีวินัยจะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และช่วยให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยการเริ่มที่ตัวเอง ถ้าคนในสังคมมีวินัย เคารพกติกา กฎระเบียบ และกฎหมาย บ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย ขอให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิและปฏิบัติตามหน้าที่ของพลเมืองที่ดีในสังคม มีเสรีภาพในการปฏิบัติแต่ไม่ทำให้ตัวเองหรือผู้อื่นเดือดร้อน เพื่อความเรียบร้อยและมีเสถียรภาพของบ้านเมือง รวมทั้งมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ เทิดทูนและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ

ส่วนการใฝ่ความดี คือการฝึกตนเองให้คิดดี คิดบวก คิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งการปฏิบัติตนภายใต้คุณธรรมความดีงามจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้ทุกคนมีกรอบในการประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม และเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งของเยาวชนให้เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่าของแผ่นดินต่อไป และเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ 

ทั้งนี้ขอให้เด็ก ๆ เยาวชนทุกคน ตั้งมั่นในความดี มีสติปัญญาที่เข้มแข็ง เป็นผู้โอบอ้อมอารีและเมตตาเอื้อเฟื้อ เพื่อสังคมไทยในวันข้างหน้าจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ มีแต่รอยยิ้ม และมีความสุข

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสร้างขีดความสามารถให้เยาวชนไทย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนในทุกมิติ และพัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกด้านทั้งร่างกาย สติปัญญา ความดีงาม และคุณธรรม ตลอดจนมีศักยภาพในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยมีพลังอำนาจและขีดความสามารถทัดเทียมนานาชาติได้ โดยได้ส่งเสริมในเรื่องความเป็นไทย ใจรักชาติ และพลังอำนาจของเด็กไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวเน้นย้ำเรื่องความเป็นไทย ใจรักชาติ ที่ถือเป็นพลังอำนาจอันทรงคุณค่าที่สุดของเด็กไทย โดยประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และเป็นมรดกล้ำค่าที่สืบสานมาจากอดีต 

หากเด็กและเยาวชนไทยตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นไทย จะเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่สามารถนำไปสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม เกิดเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งผลให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวไกลอย่างมีเอกลักษณ์โดดเด่นในเวทีโลก เพราะประเทศไทยมีสิ่งดี ๆ มากมายที่บรรพบุรุษได้ถ่ายทอดไว้ อีกทั้งยังมี Soft Power ซึ่งเป็นพลังอำนาจไม่มีชาติใดทัดเทียมได้ ทั้งด้านอาหาร ภาพยนตร์ เทศกาลรื่นเริง แฟชั่น และศิลปะการต่อสู้ หรือที่เรียกว่า 5F ได้แก่ Food Film Festival Fashion Fighting ขอให้ทุกคนตระหนักในคุณค่าควบคู่กับการสร้างเสริมพลังอำนาจในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีวิทยาการสมัยใหม่ ตลอดจนใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

นายกรัฐมนตรี แสดงความมั่นใจว่าแรงขับเคลื่อนของพลังและความสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ จะทรงพลังมากยิ่งขึ้น หากไม่ลืมแรงผลักดันที่เกิดจากประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และภูมิปัญญา ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าที่สืบสานมาจากอดีต มีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ บวกกับความเป็นไทย ใจรักชาติ ถือเป็นพลังอำนาจที่ทรงคุณค่าที่สุดของเด็กไทย ขอเพียงทุกคนเข้าใจถึงรากเหง้า ความเป็นมา และตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาและสมบัติของชาติ ก็จะสามารถนำไปสร้างสรรค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้เกิดเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นกลไกที่จะช่วยพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและเป็นที่ประจักษ์ในเวทีโลก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงความรอบรู้และความเท่าทันนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมทั้งความตระหนักและใส่ใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ในฐานะพลเมืองโลกที่ดี ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบจากสภาวะของโลกร้อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกหลานโดยตรงในภายภาคหน้า เพื่อส่งต่อโลกที่สะอาดให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีขอให้เด็ก ๆ ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกาย หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง ควบคู่กับการดูแลสุขภาพจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ พร้อมขอให้มีความสุขกับการเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กและขอให้สิ่งที่ได้เห็น ได้เรียนรู้ เป็นพลังให้ทุกคนมีความตั้งใจและมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองในวันข้างหน้า รวมทั้งขอให้เด็กและเยาวชนไทยทุกคนประสบความสำเร็จตามความปรารถนา มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง เติบใหญ่เป็นพลเมืองดีที่ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี”

#พชร ครอบครัวเดียวกัน
ขับเคลื่อนโดย Blogger.