"บิ๊กโจ๊ก" แถลงปิดคดีบังคับใช้แรงงาน ดำเนินคดี บ. วี เค การ์เมนท์ ... - ผู้นำวันนี้ DAILY
" height=" " /> " height=" " />

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad













วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

"บิ๊กโจ๊ก" แถลงปิดคดีบังคับใช้แรงงาน ดำเนินคดี บ. วี เค การ์เมนท์ ...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ แถลงปิดคดีบังคับใช้แรงงาน ดำเนินคดีบริษัท วี เค การ์เมนท์

จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2565 สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน ของประเทศอังกฤษ ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ แรงงานของโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด ถูกบังคับใช้อย่างไม่ถูกต้อง เมื่อปี 2560 - 2563 มีแรงงานชาวเมียนมา ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการทำงานตัดเย็บผ้า โดยตกอยู่ในสภาพบังคับให้ทำงานโดยตลอด นั้น   

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ สภ.แม่สอด และตำรวจภูธรภาค 6 ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าโรงงานดังกล่าวคือ โรงงานผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของบริษัท วี เค การ์เม้นท์ จำกัด  ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 608 หมู่ที่ 7 ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้เดินทางมาตรวจสอบโรงงาน วี เค การ์เมนท์ ดังกล่าว และได้เรียกประชุมสั่งการให้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของโรงงานและให้มีการสัมภาษณ์คัดแยกเหยื่อ เพื่ออำนวยความยุติธรรมในกรณีดังกล่าวโดยในเบื่องต้นมีการคัดแยกเหยื่อจำนวน 2 ครั้ง
ครั้งที่ 1  วันที่ 28 - 29 ธ.ค.2565 ทีมสหวิชาชีพ ดำเนินการคัดแยกเหยื่อ จำนวน 120 คน
ครั้งที่ 2  ในวันที่ 10 ม.ค.2566 ทีมสหวิชาชีพ ดำเนินการคัดแยกเหยื่อ จำนวน 49 คน

โดยทั้ง 2 ครั้งยังไม่ปรากฏว่ามีความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือบังคับใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย ต่อจากนั้นองค์กรอิสระ ( NGO ) ขอให้มีการคัดแยกเหยื่อเพิ่ม ทีมสหวิชาชีพจึงได้คัดแยกเหยื่อ

ครั้งที่ 3 ในวันที่ 24 - 27 ม.ค.2566 ทำการสัมภาษณ์ ลูกจ้างโรงงานจำนวน  20 ราย ผลการคัดแยกพบการกระทำความผิดคือ 
1.- ป.อาญา ความผิดอาญาฐาน  ฉ้อโกง,บัตรอิเล็กทรอนิกส์
2.- พรก.บริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว “ยึดเอกสารสำคัญฯ”
3.- พรบ.คุ้มครองแรงงาน “ให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับความยินยอม”
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบความผิดปกติในการจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้าง โดยอดีตผู้จัดการโรงงานและทีมงานได้นำบัตรเอทีเอ็มของลูกจ้าง ไปกดเงินสดและทำการหักเงินบางส่วน ก่อนที่จะจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้าง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย คือ
1.นายธนกฤต รัตนชัยภูมิ
2.นายศรัณย์  สารบรรณ
3.นางสาววิภารัตน์ กงชัยภูมิ
ซึ่งต่อมาได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 3 ราย
นอกจากนี้ยังได้ออกหมายเรียกให้ นางศิริกุล ตติยวงศ์ไพบูลย์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท  วี เค การ์เมนท์  คนที่ 1 มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน “เป็นนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันทำงานโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนเป็นคราวๆ ไป” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรง พ.ศ.2541 

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับ นางสาวดวงฤทัย  ตติยวงศ์ไพบูลย์ บุตรสาว กรรมการผู้จัดการคนที่ 2 มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันทำงานโดนไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนเป็นคราวๆ ไป”  ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฯ  กล่าวว่า คดีดังกล่าว เป็นคดีที่สื่อมวลชนไทย,สื่อมวลชนต่างประเทศ และประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลไทยก็ตระหนักและให้ความสำคัญในประเด็นนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในคดีดังกล่าวนี้ ได้มีการประชุม เร่งรัด และติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดในคดีได้ครบ  ทุกราย ได้มีการกำชับ ชุดพนักงานสอบสวนให้มีความรัดกุมในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งให้มีความละเอียดรอบคอบใช้หลักผู้เสียหายเป็นจุดศูนย์กลาง รวมถึงอำนวยความยุติธรรมในการดำเนินคดี

Post Bottom Ad

Pages