สืบนครบาล รวบ “บัญชีม้า” แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง 'ร.ต.อ.ปาริชาต' หลอกให้โอนเงินเสียหายกว่า 1.4 ลบ.
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคระห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เดือดร้อน ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์เปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเสียหายจำนวนมาก
จึงวางแผนการจับกุม โดยสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่พญาไท กรุงเทพฯ เพื่อสมัครงานใหม่และรับแจกอั่งเปาพิเศษจากทางบริษัทฯ ชุดสืบนครบาลจึงซ้อนแผนพร้อมแจก"อั่งเปา" ให้ผู้ต้องหานี้ทันที
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษมพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.ฯ,, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกระแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับกุม
น.ส.นันทวัน ถึงสุข อายุ 34 ปี ที่อยู่ 38 ม.7 ต.หนองขยาด อ.พนัสนิคม จว.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.75/2567 ลงวันที่ 30 ม.ค. 67
ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่น ใช้บัญชีเงินฝากที่มีชื่อของตนเองโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สถานที่จับกุม บริเวณร้านคาเฟ่อเมซอน สาขา โรงพยาบาลสงฆ์ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
.
พฤติการณ์ทางคดี กล่าวคือ ขณะที่ผู้กล่าวหาอยู่ที่บ้านได้มีโทรศัพท์โทรมาหาอ้างว่าเป็นร.ต.อ.ปาริชาตฯ และบอกผู้กล่าวหาว่าผู้กล่าวหาเปิดบัญซีม้า และมีเงินโอนเข้าบัญชีผู้กล่าวหา และอ้างว่าผู้กล่าวหาหนีคดี จากนั้นร.ต.อ.ปาริชาตฯได้โอนสายให้พูดกับ ร.ต.ต.หญิงมาเรียโลดฯ และร.ต.ต.หญิงมาเรียโลดฯให้ผู้กล่าวหาโอนเงินมาตรวจสอบ ผู้กล่าวหาหลงเชื่อ จึงโอนเงินเข้าบัญชีของนายอนุพล สามีผู้ต้องหา จำนวน 1,409,191 บาท ผู้กล่าวหาเชื่อว่าถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เมื่อ น.ส.นันทวันฯ ผู้ต้องหา มาปรากฎตัวเพื่อสมัครงานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจึงตัดหน้าแสดงหมายจับศาลจังหวัพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.75/2567 ลงวันที่ 30 มกราคม 2567 ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนอละเปิดหรือยินยอม ให้ผู้อื่น ใช้บัญชีเงินฝาก ที่มีชื่อของตนเองโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้ หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด"
.โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ร้านกาแฟภายใน โรงพยาบาล แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ตรงข้าม บก.สส.บช.น.
.
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเห็นโฆษณาผ่านทางกลุ่มแพลตฟอร์ม’เฟสบุ๊ก' จ้างเปิดบัญชีธนาคาร ตนและสามีจึงได้ติดต่อไป และทำตามขั้นตอนของผู้ว่าจ้าง ที่ส่งลิงก์มาทางการสนทนาในเฟซบุ๊ก เมื่อตนทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตนได้รับเงินค่าจ้างในการเปิดบัญชีธนาคาร 300 บาท ต่อมาตนจึงทราบว่าบัญชีดังกล่าว ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกผู้เสียหาย และก่อนหน้านี้สามีถูกจับกุมแล้ว .ตนทราบดีว่าต้องเข้ากระบวนการหากไม่ไปตามหมายเรียก 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายจับแน่ๆ เพราะเห็นตัวอย่างของสามี ที่ถูกออกหมายจับกุมมาแล้ว โดยภายหลังที่ตนมีหมายจับ ยอมรับว่าตนหลบหนีทันทีและย้ายออกมากบดานมาพักอาศัยในท้องที่ต่างจังหวัด เพื่อหนีหลบซ่อนตัวมาเป็นระยะเวลานาน และอยู่อย่างกังวลนอนไม่หลับสนิทเฝ้ารอเวลาที่ตนจะถูกจับกุมในสักวันหนึ่ง อีกทั้งยอมรับว่า 'วันนี้มีความหวัง' ที่จะได้งานทำรวมถึงเงินอั่งเปาที่จะจากบริษัทฯ โดยตนยอมเดินทางมาไกลจากโพธาราม จังหวัดราชบุรี เข้ามากรุงเทพฯ แต่ก็ดีใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่นับต่อจากนี้ไป ตนไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนตัวอีกต่อไปแล้ว...
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัย ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆของมิจฉาชีพ ซึ่งแฝงตัวมา ส่วนเจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.