น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมยาบ้า และไอซ์ รายใหญ่ ในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
วันพุธที่ 7 พ.ค.2568 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณหน้าอาคารที่ทำการ ตำรวจภูธรภาค 1 : น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม,พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ปปส.,พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมคณะฯ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม ยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด และ ไอซ์ ประมาณ 720 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลง 10 นโยบายเร่งด่วนต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 โดยในนโยบายเร่งด่วนที่ 8 รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร ตั้งแต่ตัด ต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน สกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและ ตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้า รวมทั้งมีระบบติดตามดูแลช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดไม่ให้กลับไปสู่วงจรอีก
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม/ประธานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติด ในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร./ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ และพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ปปส. ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ตอนในรอบกรุงเทพฯและปริมณฑล รวม 9 จังหวัด เร่งรัดทำการสืบสวนหาข่าวและ X ray พื้นที่ เพื่อปราบปรามทำลายแหล่งพักคอยและรวบรวมยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวตะเข็บชายแดน เข้ามายังพื้นที่ตอนในเพื่อรอเตรียมส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ
ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ได้เร่งรัดดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 ถึงปัจจุบัน ได้ทำการสืบสวนจับกุมยาเสพติดได้รวมจำนวน 7,961 คดี ผู้ต้องหารวม 8,100 คน ของกลาง ยาบ้ารวม 96 ล้านเม็ดเศษ,ไอซ์รวม 3,496 กก.,เคตามีนรวม 42 กก. และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ สามารถตรวจยึดทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่ารวม 389 ล้านบาทเศษ สำหรับผลการจับกุมรายสำคัญ พอสรุปได้ดังนี้
-เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2568 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด “เจ้าโย วายร้าย 15” ได้ผู้ต้องหารวม 4 คน ตรวจยึดไอซ์ 35 กก. และคีตามีน 34 กก.จับกุมที่บริเวณริมถนนทางหลวงชนบทสาย นย.2024 (สระบุรี-นครนายก) ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก ต่อเนื่องบ้านพัก ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก
-เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2568 จับกุมทีมโกดังยาเสพติด “เสือเปรม ปชน.” ได้ผู้ต้องหา 1 คน ตรวจยึดไอซ์ 217 กก. ยาบ้า 560,000 เม็ด,ยาอี 3,163 เม็ด และ เคตามีน 88 กรัม จับกุมที่บริเวณลานจอดรถภายในปิยรมณ์อพาร์ทเม้น ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ต่อเนื่องห้องพักภายในปิยรมณ์อพาร์ทเม้น ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
-เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2568 จับกุมแหล่งพักคอย “ทีมโกดังป่างิ้ว อ่างทอง” ได้ผู้ต้องหารวม 5 คน ตรวจยึดยาบ้า 8.4 ล้านเม็ด จับกุมที่โกดังพักยาเสพติด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง
-เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2568 จับกุมยาเสพติด เครือข่าย “แจ็ค หนองไผ่” ได้ผู้ต้องหา 4 คน ตรวจยึดยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด จับกุมที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.โคกลำพาน อ.เมือง จ.ลพบุรี
-เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2568 ร่วมกับ บช.ปส. สกัดจับรถลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ได้ผู้ต้องหารวม 3 คน ตรวจยึดไอซ์ 2,464 กก. สกัดจับได้ที่จุดสกัดตู้ยาม ต.02 หมู่ 4 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
-เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2568 ตรวจยึดไอซ์ 520 กก. ภายในโกดังไม่มีเลขที่ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
-เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2568 ตรวจยึดยาบ้า 4.4 ล้านเม็ด ได้ผู้ต้องหารวม 2 คน จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 7 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
-เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2568 ตรวจยึดไอซ์ 262 กก. ได้จากรถยนต์กระบะที่ประสบเหตุอุบัติเหตุ ที่บริเวณถนนพหลโยธิน อ.วังน้อย
จ.พระนครศรีอยุธยา
-เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2568 จับกุมรถขนไอซ์จากภาคอีสาน มุ่งหน้าเข้ามายังพื้นที่ตอนใน ได้ผู้ต้องหา 2 คน ตรวจยึดไอซ์ 200 กก. จับกุมได้ที่ในพื้นที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ในวันนี้ ขอแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ซี่งเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติด นำมาพักคอยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสามารถทำการจับกุมได้ในวันที่ 7 พ.ค.2568 มีรายละเอียดดังนี้
-จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร./ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้,พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรวง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.
-สำนักงาน ป.ป.ส. นำโดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.,นาย ทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 1 และ ว่าที่ร้อยตรี อากาศ ปานแย้ม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ สำนักงาน ปปส.ภาค 1
-ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา,พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1,พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1,พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1,พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สืบสวน ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม
คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุม รถบรรทุกเทรลเล่อร์ขนยาเสพติดในพื้นที่ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ชุดขยายผลฯ,ศอ.ปส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และ กก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบว่า กลุ่มลูกค้าที่เคยรับยาเสพติดจากรถบรรทุกเทรลเล่อร์คันดังกล่าว ได้นำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมเรื่อยมา จนกระทั่งในวันที่ 7 พ.ค.2568 เวลาประมาณ 06.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สนธิกำลังกันเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผลการตรวจค้น พบยาบ้า 40 กระสอบ คิดเป็นจำนวนยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด และ ไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 720 กิโลกรัม
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายแบ็ค (นามสมมติ) อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป
ตำรวจภูธรภาค 1 จะได้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และ X-ray พื้นที่ ไม่ให้เป็นแหล่งพักคอย รวมทั้งจะเข้มงวดกวดขันสกัดกั้น ตัดตอนการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนในอย่างต่อเนื่องต่อไป และใคร่ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
“ตำรวจภูธรภาค 1 เป็นหนึ่ง พึ่งได้ ทันสมัย ดูแลความปลอดภัย เพื่อประชาชน”