#พังยับไร้เยียวยา เปิดคลิปอีกมุม! กระบะชนรถกู้ภัย ร้านหญิงไทพังยับ ไม่มีใครเยียวยา – สมาคมช่างผมลงพื้นที่ช่วยเหลือเบื้องต้น
สมุทรสาคร – จากกรณีรถกระบะพุ่งชนท้ายรถอาสากู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร จนเสียหลักพุ่งเข้าร้านตัดผม "หญิงไท บาร์เบอร์" เมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดยังไม่มีผู้ใดยอมรับผิดเต็มตัว ทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยา ขณะเดียวกันวันนี้มีความเคลื่อนไหวจากภาคประชาชนที่เริ่มเข้ามาช่วยเหลือ
นายเกรียงไกร เม่นคล้าย นายกสมาคมไทยบาร์เบอร์ นำสิ่งของที่จำเป็น เช่น โต๊ะ กระจก และผลิตภัณฑ์ทำผม มอบให้ร้านหญิงไท บาร์เบอร์ ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก โดยระบุว่า “หลังเห็นข่าวจากกลุ่มช่างผมทั่วประเทศ ต่างสะเทือนใจ จึงมอบสิ่งของเพื่อช่วยให้กลับมาทำมาหากินได้อีกครั้ง” พร้อมทั้งประสานไปยังนักข่าวและผู้มีอิทธิพลในโซเชียลเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
รวินันทน์ เชยสงวน เจ้าของร้านหญิงไท เล่าว่ารู้สึกหมดหวัง เนื่องจากถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครรับผิดชอบค่าเสียหาย ทั้งรถกระบะและรถกู้ภัยต่างโทษกันไปมา โดยฝ่ายรถกระบะยอมรับว่าขับเร็ว แต่รถกู้ภัยกลับไม่ยอมรับว่าเปลี่ยนเลนกะทันหัน เป็นเหตุให้บริษัทประกันไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ เพราะเข้าข่าย "ประมาทร่วม"
รวินันทน์ กล่าวด้วยน้ำตาว่า “เรามีแค่ร้านนี้ ที่ใช้หาเลี้ยงลูก 2 คน และแม่อีกคน เพิ่งเสียพ่อไป เงินทุนก้อนสุดท้ายก็หมดแล้ว รถของมูลนิธิยังมีสำรองใช้ แต่เราสามชีวิตไม่มีอะไรเหลือเลย อยากขอความเห็นใจจากเจ้าของมูลนิธิ อย่าเพิกเฉยเลยค่ะ
ทีมข่าวยังได้รับข้อมูลว่า ขณะสอบปากคำคนขับรถกู้ภัย มีสายโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามาเพื่อสั่งไม่ให้พูดอะไร ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน นายชัยกร คนขับรถกระบะคู่กรณี ยอมรับว่า ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80–100 กม./ชม. และดื่มแอลกอฮอล์เล็กน้อย โดยผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ครั้งแรกได้ 47 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ครั้งที่สอง 44 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
นายชัยกรให้ข้อมูลว่า "ขับมาจากทางซ้ายและแซงขึ้นขวา บริเวณหน้ารพ.บ้านแพ้ว จู่ๆ รถมูลนิธิก็เปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันและชนเข้าเต็มแรง" พร้อมยืนยันว่าได้มอบคลิปหลักฐานให้ตำรวจแล้ว และเสียใจที่ถูกสังคมรุมด่าโดยไม่รับฟังข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย
สถานการณ์ล่าสุด ขณะนี้คดียังไม่สามารถสรุปความผิดได้ เพราะตำรวจชี้ว่าเป็น “ความประมาทร่วม” และจะเรียก รถกระบะ และร้านเสริมสวยเข้าให้ปากคำในสัปดาห์หน้า ฝ่ายประกันกระบะดำยังไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมได้ เนื่องจากฝ่ายมูลนิธิไม่ยอมรับว่าตนประมาทร่วมอีกทั้งรถไม่มีประกันภัย เรื่องยังคงต้องส่งฟ้องศาลเพื่อหาข้อยุติ
ทั้งนี้ รวินันทน์ เจ้าของร้านหญิงไทยบาร์เบอร์ กล่าวด้วยน้ำตาว่า "เราไม่ได้อยากได้เงินเยอะ เราแค่อยากได้ร้านคืน เพื่อจะได้หาเลี้ยงลูก" – รวินันทน์ กล่าวทิ้งท้าย
ภาคประชาชนขยับแล้ว – สมาคมไทยบาร์เบอร์ และกลุ่มช่างผมทั่วประเทศ เริ่มระดมความช่วยเหลือ พร้อมวิงวอนทุกฝ่ายเห็นใจผู้เดือดร้อน และร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ทอดทิ้งผู้เสียหาย