“ก้าวสำคัญ สบพ. ครบรอบ 64 ปี ยกระดับมาตรฐาน ICAO-EASA
สร้างทัพบุคลากรการบิน พาไทยยกระดับสู่ศูนย์กลางการบินเอเชียแปซิฟิก”
สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) จัดงานวันคล้ายสถาปนาสถาบันฯ ครบรอบ 64 ปี โดยมี นายประภูศักดิ์ จินตะเวช ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้แทนนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี และได้รับเกียรติจาก นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านอำนวยการ พลเอก ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ ประธานคณะกรรมการ สบพ. อดีตประธานกรรมการ สบพ. อดีตผู้ว่าการ สบพ. คณะผู้บริหารและ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมเป็นเกียรติในงาน โดยร่วมพิธีบวงสรวง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสบพ. และพิธีทางศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมร่วมแสดงความยินดีและบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล โดยมี นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการ สบพ. คณะผู้บริหาร พนักงาน และนักศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ ในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ณ อาคารศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน สบพ. กรุงเทพฯ
นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการ สบพ. เปิดเผยว่า สบพ.ในฐานะสถาบันหลักในการผลิตและพัฒนาบุคลากรการบินของประเทศ มาอย่างยาวนานถึง 64 ปี มีหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งหลักสูตรภาคพื้นและภาคอากาศแบบครบวงจร เรายังคงมุ่งมั่นและเตรียมความพร้อมในการสร้างมาตรฐานบุคลากร ภายใต้หลักสูตรและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย เพื่อยกระดับความสามารถให้ได้มาตรฐานด้านการบินพลเรือน และมีการพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงานด้านการบินทั้งในและต่างประเทศ ขานรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม อาทิ การเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค (Aviation Hub) รวมถึงการเป็นศูนย์กลางในการผลิตบุคลากรด้านการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้มุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถทุกมิติ
ซึ่งในปีที่ 64 นี้ สบพ.ก้าวสู่ความสำเร็จไปอีกระดับ จากการได้รับรองหลักสูตรการฝึกอบรมควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control Basic Training) ในรูปแบบ CBTA (Competency-Based Training and Assessment) ตามข้อกำหนดของ ICAO และ กพท. ส่งผลให้ สบพ. เป็นสถาบันแห่งแรกในประเทศที่ผ่านการรับรองตามแนวทางใหม่นี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพบุคลากรและเสริมสร้างความปลอดภัยในการเดินอากาศของประเทศ และอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมขอรับรองศูนย์ฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงอากาศยานสู่มาตรฐานการบินของสำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนและขยายโอกาสในการทำงานระดับสากล อีกทั้งยังเดินหน้าเสริมทัพสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมการบิน ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาหลักสูตร การฝึกอบรม และโครงการต่าง ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต
ภายหลังจากที่ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาคาร สถานที่และห้องฝึกปฏิบัติการที่กรุงเทพเรียบร้อยแล้ว ในปี 2568 นี้ สบพ.มีแผนในการพัฒนาศูนย์ฝึกการบิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในโครงการงานก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบินหัวหินและสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 1 คาดการณ์ว่าจะดำเนินการก่อสร้างในเดือนสิงหาคมของปีงบประมาณ 2568 และแล้วเสร็จในปี 2570 ด้วยวงเงินประมาณ 414.4 ล้านบาท และระยะที่ 2 วงเงิน 130.87 ล้านบาท นับเป็นอาคารเรียนและฝึกอบรมที่มีความทันสมัย รองรับการฝึกอบรมภาคอากาศ โดยเฉพาะเพื่อให้พร้อมรับศิษย์การบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีแผนการขยายฝูงบินและเส้นทางการบินอย่างต่อเนื่อง จึงมีแผนในการสร้างนักบินฝึกหัดจำนวนมาก โดยในปีนี้ได้ส่งนักเรียนทุนฝึกหัดให้ สบพ.จำนวน 2 รุ่น รวมจำนวน 56 คน นอกจากนี้ ยังมีศิษย์การบินจากกองทัพอากาศ และศิษย์การบินจากหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมการบิน วิชาโทนักบินพาณิชย์ตรี และศิษย์การบินทุนส่วนตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ สบพ.ยังมีโครงการเฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์เดียวสำหรับฝึกบิน จำนวน 3 ลำ เพื่อให้พร้อมรับศิษย์การบินจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือและกรมแผนที่ทหาร และโครงการจัดหาอากาศยานทดแทน 10 ลำ โดยโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามแผนการพัฒนาที่วางไว้
ในอนาคต สบพ.ยังได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในสถาบันหลักในการร่วมผลักดันโครงการ “1 อำเภอ 1 ทุน ด้านการบิน”ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาด้านการบิน โดยมีกำหนดเปิดตัวโครงการในปี 2570 รวมถึงการริเริ่มโครงการฝึกอบรมสำหรับประเทศกำลังพัฒนา (Developing Country) ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เป็นผู้มอบทุนจำนวน 51 ทุนให้แก่เจ้าหน้าที่ของประเทศกำลังพัฒนาที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ เพื่อเข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตรเฉพาะทางตามมาตรฐาน ICAO ที่จัดอบรมโดย สบพ. ในระยะเวลา 1 ปี ระหว่างเดือน มกราคม-ธันวาคม 2568 อีกด้วย
จึงสะท้อนให้เห็นว่า สบพ. มีบทบาทสำคัญและมีความพร้อมในการผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินของประเทศและการเตรียมความพร้อมของบุคลากรอย่างครบวงจร ในการยกระดับอุตสาหกรรมการบินของไทย ให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศและภูมิภาค รองรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการบินที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างยั่งยืน
