”ผู้การฯตม.3“ ร่วม สภ.พัทยาบุกรวบ แก็งคนจีน เหิมเปิดกาสิโนครบวงจร
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 เปิดเผยว่า จากนโยบายของพล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ให้ สตม. เร่งรัดปราบปราม การกระทำความผิดขบวนการชาวต่างชาติ ทั้งข้อสั่งการกำชับให้เร่งสืบสวนจับกุมขบวนการต่างๆของ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม.ฯ สืบเนื่องจากกรณีได้รับการประสานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันของคนต่างด้าวที่ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง อ.บางละมุง ชลบุรี และได้ประสานให้ กก.สส.บก.ตม.3 พร้อมด้วย ตม.จว.พัทยา ร่วมกันวางแผนตรวจสอบ จึงได้ทดลองสายลับเข้าสังเกตุการณ์จนพบว่าที่สถานที่ดังกล่าวมีบุคคลต่างด้าวเคลื่อนไหวในเวลากลางคืนพลุกพล่านเชื่อว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจริง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนเข้าจับกุม
ต่อมาเมื่อ 16 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 23.30 น. ตนสั่งการให้ พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รองผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณีผกก.ตม.จว.ชลบุรี พร้อมด้วยกำลัง กก.สส.บก.ตม.3 และ ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.โกสละ งามผ่อง รอง ผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.พัทยา และกำลังตำรวจ สภ.พัทยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุงนำโดย นายณฐาภพ ยมจินดา, นายนัธทวัฒน์ โสภณ นายธฤต จันทร์จรูญ ปลัดอำเภอบางละมุง เข้าตรวจค้นจับกุม ผลการตรวจสอบปรากฏว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 8 ชั้น พบคนต่างด้าวในส่วนต่างๆ แยกส่วนพิจารณาดำเนินการเบื้องต้นดังต่อไปนี้
ในส่วนชั้น 1 เป็นส่วนห้องรับรองและแผนกต้อนรับ มีพนักงานเป็นคนไทยรับจองที่พัก ในส่วนชั้น 2 เป็นส่วนที่มีการจัดให้มีการพนันพบนักพนันเป็นคนต่างด้าว จำนวน 20 คน ได้แก่ คนจีน 16 คน, คนเวียดนาม 3 คน, สิงคโปร์ 1 คน รวมประมาณ 20 คน พบอุปกรณ์โต๊ะเล่นไพ่โป๊กเกอร์ และชิบแทนเงินสดจำนวนมาก ส่วนชั้น 3-7 เป็นส่วนที่มีห้องพัก ดำเนินคดีในความผิดตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และ พรก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 จำนวน 24 คน ได้แก่ คนจีน 16 คน (ม.37), สิงคโปร์ 2 คน(ม.37), กัมพูชา 1 คน (ทำงาน) และเมียนมาร์ 5 คน (แบ่งเป็น ม.37 จำนวน 2 รายและหลบหนีเข้าเมือง 3 ราย)
และบนชั้น 8 เป็นส่วนที่มีคนจีนจำนวน 6 คน นั่งทำงานออนไลน์ตรวจพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ว่าทำงานเป็นพนักงานลอกส่งลิงค์ให้บริษัทเอกชนในจีนกดเพื่อปล่อย ransomware จึงได้จับกุมในความผิดฐาน “เป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย (เป็นอั้งยี้) และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวน 9 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 15 เครื่อง
ในชั้นนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและจัดทำบันทึกจับกุม หากมีรายละเอียดเป็นประการใดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป ”ผบก.ตม.3 กล่าว“