ผู้นำวันนี้ DAILY

แถลงการณ์ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เรื่อง เราต้องการการเมืองที่เห็นหัวประชาชน

 

กว่า 8 ปี ของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2 ปี ของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นยุคที่ผู้ปกครองเห็นประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง การบริหาร การดำเนินนโยบายต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม มิได้มุ่งตรงไปสู่การแก้ไขปัญหาประเทศอย่างแท้จริง แต่ล้วนกลับเป็นการเลี้ยงไข้และความพยายามในการรักษาไว้ซึ่งอำนาจเพื่อควบคุม กำกับ ความก้าวหน้าของสังคม อีกทั้งยังตัดตอนการเติบโตของขบวนการประชาชนอย่างเห็นได้ชัด

การอ้างถึงความสงบมั่นคงของบ้านเมือง เป็นเครื่องมือหลอกใช้จนกลายเป็นเรื่องปกติ การสื่อสารสะท้อนแสดงออกถึงปัญหาต่างๆ ของประชาชนกลายเป็นเรื่องแสลงใจที่ฝ่ายการเมืองไม่ต้องการรับฟัง และรังแต่จะเดินหน้ากำหนดนโยบาย ใช้งบประมาณแผ่นดินไปเพื่อเลี้ยงปัญหาผ่านแนวทางประชานิยม แบบลด แลก แจก แถม ไปวันๆ ในทางกลับกัน ปัญหาอันแท้จริงของสังคมกลับถูกละเลย มองข้าม ถูกทำให้เลือนหายไป แทนที่จะรับฟัง สร้างการมีส่วนร่วม แต่รัฐพยายามใช้กลไกอำนาจจำกัดสิทธิเสรีภาพทุกรูปแบบ ไม่เว้นแต่กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เที่ยงธรรม เลือกรับใช้คนบางกลุ่ม เศรษฐกิจที่ควรกระจายสร้างโอกาสกลับกลายเป็นเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ของกลุ่มทุน แทนที่เราจะเห็นนักการเมืองที่เสียสละอุทิศตัว แต่กลับเต็มไปด้วยนักการเมืองที่ฉวยโอกาสเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนพลังงาน ทุนอุตสาหกรรม ทุนโทรคมนาคม หรืออื่นๆ ทั้งภายในและต่างชาติ ซึ่งล้วนต่างใช้สายสัมพันธ์กอบโกยกำไรจากการขูดรีดเลือดเนื้อ แย่งยึดฐานทรัพยากรจากประชาชนมาอย่างช้านาน โดยอาศัย การทุจริตทางนโยบาย ปรับเปลี่ยนแก้ไข และสร้างกฎหมายขึ้นมารองรับความชอบธรรม สิ่งที่น่าสลดใจคือระบบธรรมาภิบาลในภาครัฐและระบบราชการถูกทำลาย เพราะการแทรกแซงของกลุ่มผู้ผลประโยชน์ ล่าสุดที่หนักหนาสาหัสคือเราต้องเผชิญกับสงครามที่ไร้เหตุผล ความขัดแย้งที่บานปลายกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ควรจะเกิดขึ้น

หากรัฐบาลมีความสามารถและวุฒิภาวะ ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ควรเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนอย่างพวกเราจะยอมรับยอมจำนนกับระบบการเมืองการปกครองที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ เราไม่ควรปล่อยให้ประเทศไหลเรื่อยไปสู่ชะตากรรมที่ไร้อนาคต ประชาชนควรร่วมลุกขึ้นมาส่งเสียงสะท้อนกำหนด ทางออกทางการเมืองในอนาคตอันใกล้นี้ คงไม่ใช่แค่การยอมรับหรือไม่ยอมรับการจับขั้วทางการเมืองของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่คือการเดินไปสู่ “การเมืองที่เห็นหัวประชาชน” อย่างแท้จริง นั่นหมายถึงการคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตของตนเองโดยข้ามพ้นวังวนเดิมๆ ไปสู่การเมืองใหม่ที่จะมีประชาชนเป็นตัวตั้งในสมการ เพื่อนำไปสู่การกำหนดทิศทางพัฒนาประเทศที่ไม่ใช่ต้องทำตามโจทย์ของนักการเมืองบ้านใหญ่ซึ่งคอยแต่จะจับมือกับกลุ่มทุนและศักดินา เราประชาชนจะไม่ยอมอยู่เพียงเพื่อถูกปกครองและเลี้ยงไข้แบบวันต่อวันอีกต่อไป

โดยสรุป หากจะอ้างว่า “ทำเพื่อประชาชน” ควรเป็นพฤติกรรมที่เห็นความสำคัญในการแก้ปัญหา สร้างความสุขให้ประชาชนอย่างจริงใจตลอดสาย ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มิใช่นำมาอ้างเพื่อตบตาพาตนเองไปสู่อำนาจที่เมื่อเข้าสู่อำนาจแล้วก็ถีบหัวพวกเราทิ้งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา สุดท้ายนี้ เราพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบแล้วว่า ทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้คือ “การยุบสภา” เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจแท้จริงได้ตัดสินใจกับอนาคตของตัวเอง

 

ด้วยภราดรภาพ และความศรัทธาเชื่อมั่นต่อประชาชน

แถลง ณ ห้องประชุมชั้น 4 ตึกกิจกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 15.00 น.

กป.อพช. (คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน)

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) 

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)

เครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง

เครือข่ายนักรบผ้าถุง จะนะ

เครือข่ายสิ่งแวดล้อม เครือข่ายสุขภาพ ฯ สภานักศึกษาและองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์