หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วยเหลือและเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
วันที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 11.00 น. จุดรวมพล วัดโรงนา หมู่ 8 บ้านโรงนา ต. น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (ส.ส.เต้)สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์
พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค,นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส. และ นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ อดีต ผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส.ได้ลงพื้นที่ชุมชนโดยรอบใกล้เคียง เพื่อดูความเสียหายพื้นที่เกษตรกรรม และที่อยู่อาศัย เพื่อหาแนวทางการเยียวยา ชดเชย และให้กำลังใจ พร้อมมอบอาหารปรุงสุกจำนวน 200 กล่อง น้ำดื่ม 100 แพ๊ค 1,200 ขวด
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เนื่องจากทางกรมชลประทาน แจ้งว่า จากฝนที่ตกชุกสะสมในพื้นที่ตอนบน บริเวณจังหวัดลำปาง เเพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบัน (30 สิงหาคม 2565) เวลา 06.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,762 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที (วานนี้ 1,678 ลบ.ม./วินาที) ต่ำกว่าตลิ่ง 3.84 เมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ก่อนปริมาณน้ำนี้จะไหลไปรวมกับน้ำที่มาจากเเเม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขา และไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ทยอยปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมอัตรา 1,649 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 1,660 ลบ.ม./วินาที โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ เวลา 16.00 น. และจะทยอยปรับการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเกณฑ์ 1,700 ลบ.ม./วินาที เวลาประมาณ 09.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค. 65) ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
ซึ่งวันนี้ตนได้สำรวจความเสียหาย พบว่ามีประชาชนริมน้ำ ได้รับผลกระทบ ถูกน้ำท่วมครบทั้ง 16 ตำบล รวม 86 หมู่บ้าน 3,904 หลังคาเรือน และชาวบ้านได้รับผลกระทบรวม 10,455 คน มีพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหาย จำนวนมาก โรงเรียน 3 แห่ง วัดอีกหลายแห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล อีก 2 แห่ง ซึ่งตนต้องการให้ รัฐบาลเร่งเยียวยาให้ประชาชนหลังน้ำลดโดยการซ่อมแซมบ้าน เยียวยาพื้นที่เกษตรกรรม ซ่อมแซมวัด ซ่อมถนนชลประทานกั้นน้ำจากแม่น้ำน้อย ซ่อมคันกั้นน้ำริมตลิ่ง อีกทั้งต้องเร่งวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามฝนแล้งปีละ 7 เดือน ของทุกปี ในส่วนของวัดโรงนาราชศรัทธาธรรม เจ้าอาวาสได้แจ้งว่าผนังคันกั้นน้ำเดิมนั้นมีความสูงน้อยกว่าระดับน้ำที่มาจากแม่น้ำน้อย จึงไม่สามารถป้องกันได้ และต้องรอการก่อสร้างอยู่ในงบประมาณซึ่งก็จะได้ตอนงบปี 67 ซึ่งคิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดสรรงบประมาณฉุกเฉิน งบประมาณเร่งด่วนในการทำผนังคันกั้นน้ำ หรือคันกั้นน้ำชั่วคราวแบบกระสอบทราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และควรวางแผนการจัดการน้ำล่วงหน้าเอาไว้ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน