แฉ!! ขบวนการฟอกฝุ่นแดงระดับประเทศ ฉากหน้ารีไซเคิลล้านบาท เบื้องหลังคือโรงงานฟอกมลพิษ-ฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 นางฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าชุดสุดซอย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า มีนักลงทุนต่างชาติชื่อ "นายพาน หงโจว" จัดตั้งบริษัทในประเทศไทยจำนวน 3 แห่ง มีพฤติกรรมต้องสงสัยเป็นขบวนการ "ฟอกฝุ่นแดง" จากโรงงานเหล็ก โดยใช้วิธีแปลงสถานะขยะอุตสาหกรรมให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ส่งออกต่างประเทศ ทั้งยังมีพิรุธปลอมแปลงเอกสารและข้อมูลทางราชการ
บริษัทที่ 1: ฉากหน้ารับกำจัดกากอุตสาหกรรม – เบื้องหลังไม่มีเครื่องจักรใช้งานได้
บริษัท เอ็น เอฟ เอ็ม อาร์ ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง อ้างตัวว่าเป็นผู้รับกำจัดฝุ่นจากเตาหลอมเหล็ก (เตา IF) ของโรงงานเหล็ก 11 แห่งทั่วประเทศ แต่กลับพบว่าบริษัทไม่มีเครื่องจักรที่สามารถใช้งานได้จริง ตรวจสอบพบเอกสารรับส่งฝุ่นแดงมีการปลอมแปลง และการคีย์ข้อมูลเป็นเท็จ
บริษัทที่ 2: เปลี่ยนฝุ่นเป็นสินค้า – เบื้องหลังคือการแปรรูปแบบเถื่อน
บริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด ในจังหวัดปราจีนบุรี ทำหน้าที่รับฝุ่นแดงจากบริษัทแรกไปแปรรูปเป็นก้อนสังกะสี โดยอ้างว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากกระบวนการหลอมใหม่ เพื่อเปลี่ยนฝุ่นเป็นของมีมูลค่า ก่อนส่งต่อให้บริษัทที่ 3 หรือนำส่งออกบางส่วน
บริษัทที่ 3: โรงงานเคมีปลายทาง – ฉากหน้าถูกต้องแต่มีพิรุธ
บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ทำหน้าที่หลอมก้อนสังกะสีให้กลายเป็นผงสังกะสี เพื่อขายตามออเดอร์ของลูกค้าต่างประเทศ แม้เบื้องต้นโรงงานมีเอกสารถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และพบเอกสารการนำเข้าของเสียจากต่างประเทศที่เป็นวัตถุอันตราย พร้อมเอกสารปลอมเกี่ยวกับการแจ้งรับกากอุตสาหกรรม
ขบวนการฟอกฝุ่น-ฟอกเงิน
นางฐิติภัสร์ ระบุว่า ทั้ง 3 บริษัทนี้มีลักษณะเป็นขบวนการเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่รับฝุ่นแดง ปลอมแปลงเอกสาร แจ้งข้อมูลเท็จแก่เจ้าหน้าที่รัฐ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากฝุ่นด้วยการผลิตสินค้าส่งออก โดยเชื่อว่าอาจมีการ "ฟอกเงิน" ควบคู่ไปกับการฟอกฝุ่นแดง และการประกอบธุรกิจที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน
DSI รับดำเนินคดีนับพันแฟ้ม
เจ้าหน้าที่รัฐได้สั่งปิดโรงงานที่ผิดกฎหมายแล้ว และกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้รวบรวมเอกสารหลักฐานส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้วกว่า 1,000 คดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมสรรพากร และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เข้าร่วมตรวจสอบอย่างจริงจัง