- ผู้นำวันนี้ DAILY

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad



วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สันธนะ ร้อง ภูมิธรรม แต่งตั้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็น พล.ต.อ. ไม่เหมาะสมหลังพบเอี่ยวฟอกเงินสถานบันเทิงให้เว็บพนัน ส่วนกรณีชนะคดีชูวิทย์ ยังมีหลายคดีที่ต้องสู้กันต่อ ส่วนจะเผาผีกันไหม เดี๋ยวบอกอีกที



เมื่อเวลา14.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 68 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามความคืบหน้า กรณีที่เคย ยื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสูงไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ส.ค.68ที่ ผ่านมา พร้อมนำหลักฐานการรับส่วยสถานบันเทิงของสน.แต่ละพื้นที่มาโชว์สื่อ อ้างว่านี่คือรายได้ที่สถานีตำรวจเก็บจากสถานบันเทิงในพื้นที่ และส่งส่วยเหล่านี้ถึงระดับกองบัญชาการ


นายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาติดตามความคืบหน้าว่า หนังสือคัดค้านการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ยศ พล.ต.ท.ที่กำลังจะขึ้นรับตำแหน่ง พล.ต.อ. หรือ รองผบ.ตร. ที่ได้ส่งถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ จะได้นำเข้าที่ประชุม ก.ตร. ในวันนี้หรือไม่ 

ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนของ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.


นายสันธนะ มองว่า การพิจารณาเลื่อนตำแหน่งตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ 2565 มาตรา 82 ไม่ใช่จะพิจารณาแต่อาวุโสอย่างเดียว ต้องดูความประพฤติและจริยธรรมของข้าราชการตำรวจด้วย อย่างนายตำรวจที่ตนเองร้องเรียนนายนี้ มีหลักฐานชัดเจนเรื่องพฤติการณ์นำเงินจากเว็บพนัน ไปสร้างสถานบันเทิงเพื่อฟอกเงิน ยกตัวอย่างเช่น สถานบันเทิงย่านประเสริฐมนูกิจ พระราม 9 และห้วยขวาง ก็มีหลักฐานเส้นเงินชัดเจน ส่งส่วยเดือนละหลายแสนบาท 

นายสันธนะ ยืนยันว่า การร้องเรียนครั้งนี้ไม่ได้เกาะกระแสหรือหิวแสง แค่ติดตามความคืบหน้าที่ร้องเรียนเอาไว้ และคาดว่าหนังสือดังกล่าวจะได้รับการพิจารณา เพราะช่วงสองเดือนที่แล้วตัวเองก็เคยร้องเรียนนายตำรวจท่านนี้แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณาใดๆ อีกทั้งในการแต่งตั้งโยกย้ายปีที่แล้วตัวเองก็เคยร้องเรียนนายตำรวจท่านหนึ่งแต่ท้ายที่สุดก็ได้ขึ้นตำแหน่ง หากการร้องเรียนครั้งนี้ไม่ได้รับการพิจารณา ตัวเองก็จะเดินหน้าร้องเรียนกับหน่วยงาน ป.ป.ช.ต่อไป

ส่วนกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาจำคุกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ 8 เดือน ฐานหมิ่นประมาทโดยไม่รอลงอาญา นายสันธนะ บอกว่า ยังมีคดีฟ้องร้องกับนายชูวิทย์อีกหลายคดีที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ    ซึ่งการที่ศาลมีคำพิพากษาออกมาแบบนี้ หลังจากนี้ก็เตรียมจัดปาร์ตี้ฉลอง 

ส่วนก่อนหน้านี้ที่สื่อเห็นว่าตนเองและนายชูวิทย์ทักทายกันในศาลก็เป็นเพียงการทักทายเฉยๆ ไม่ได้มีการขอโทษกัน และบนชั้นศาลนายชูวิทย์ก็ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาอยู่ ดังนั้นตัวเองก็ยังไม่ได้ให้อภัยและขอต่อสู้คดีกันต่อ 

นายสันธนะ มองว่า การที่นายชูวิทย์ให้ข่าวพูดถึงตัวเองไม่ใช่การพูดกันเพียง 2คน แต่พูดกับสื่อจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะฉะนั้นตัวเองก็จะใช้ศาลเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ

ส่วนปัญหาเรื่องสุขภาพของนายชูวิทย์ที่ป่วยอยู่นั้น ส่วนตัวไม่เชื่อ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ยังพบว่านายชูวิทย์ยังใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งหลังจากนี้จะยอมความหรืออโหสิกรรมหรือไม่นั้น ตัวเองก็อยากบอกกับ นายชูวิทย์ว่า เวลาอยู่ที่ศาลก็อย่าปฏิเสธ ส่วนเรื่องที่โกรธกันจนขั้นไม่เผาผีนั้น ตอนนี้ชูวิทย์ยังไม่ได้เป็นอะไรขอให้ถึงวันนั้นก่อนเดี๋ยวจะบอกอีกที แต่ไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนกัน

Post Bottom Ad




Pages